ไมเกรนคือ

อาการปวดศีรษะจากฮอร์โมนและอาการปวดไมเกรนจากประจำเดือน

การปวดศีรษะหลายชนิดที่เกี่ยวข้องกับระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรน โดยส่วนใหญ่ผู้หญิงมักปวดไมเกรนก่อนมีประจำเดือนราวสองวันจนถึงวันที่สามของประจำเดือน แต่สิ่งอื่นๆที่ทำให้ฮอร์โมนเปลี่ยนแปลงก็ทำให้ปวดศีรษะได้ ความปวดจะมากขึ้นในช่วงมีประจำเดือน

สาเหตุของอาการปวดศรีษะไมเกรน

ยาคุมกำเนิด:ยาเม็ดคุมกำเนิดอาจทำให้การปวดไมเกรนมีอาการแย่ขึ้น หรือดีขึ้น แตกต่างกันในแต่ละคน ยาคุมกำเนิดควบคุมปริมาณฮอร์โมนให้คงที่สามสัปดาห์ในหนึ่งเดือน แต่ในขณะที่คุณกินยาหลอกในช่วงมีประจำเดือน เอสโตรเจนจะสูงและคุณอาจปวดหัวตุบๆ รวมถึงอาการคลื่นไส้ร่วมด้วย หากคุณมีอาการแบบนี้ ควรกินยาคุมชนิดเอสโตรเจนต่ำหรือมีโปรเจสตินเพียงอย่างเดียวจะดีกว่า

ฮอร์โมนทดแทน: ที่ใช้กับหญิงวัยหมดประจำเดือนเพื่อควบคุมระดับฮอร์โมน อาจทำให้ปวดศีรษะได้ การใช้เอสโตรเจนแบบแปะที่ผิวหนังช่วยลดอาการปวดศีรษะได้ดีกว่าเอสโตรเจนชนิดอื่นเพราะมันจะค่อยๆปล่อยฮอร์โมนปริมาณต่ำๆ ออกมาสม่ำเสมอ

วัยหมดประจำเดือน: เมื่อหมดประจำเดือน คุณอาจปวดไมเกรนน้อยลง หากคุณได้รับเอสโตรเจนทดแทนและปวดไมเกรนมากขึ้น แพทย์อาจลดปริมาณ หรือหยุดหรือเปลี่ยนชนิดของฮอร์โมน เช่นเดียวกันในกรณีนี้แผ่นเอสโตรเจนแปะผิวหนังเป็นทางเลือกที่ดีกว่า หากยังต้องการฮอร์โมนทดแทนอยู่ ซึ่งจะทำให้ระดับเอสโตรเจนคงที่ และไม่เกิดการปวดไมเกรนจากประจำเดือน แต่บางคนสังเกตว่าขณะที่ไมเกรนดีขึ้น แต่กลับไปปวดศีรษะจากความเครียดแทน

การมีประจำเดือน:ทำไมจึงมักปวดไมเกรนในช่วงมีประจำเดือน คุณอาจไม่คิดว่ามันเกี่ยวข้องกัน แต่60%ของผู้หญิงที่เป็นไมเกรนมีอาการปวดที่เรียกว่าปวดไมเกรนเมื่อมีประจำเดือน ก่อนจะมีประจำเดือนระดับของเอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรน (ฮอร์โมนเพศหญิงสองชนิด)ในร่างกายจะลดลง การเปลี่ยนแปลงนี้ทำให้ปวดศีรษะ

วัยก่อนหมดประจำเดือน:ในช่วงก่อนจะหมดประจำเดือน ระดับเอสโตรเจนจะขึ้นๆลงๆ ในช่วงเวลานี้ ผู้หญิงส่วนใหญ่จะปวดศีรษะทั้งจากความเครียดและไมเกรน

การตั้งครรภ์:ในช่วงไตรมาสแรก เอสโตรเจนจะขึ้นสูงเร็วมาก และจะคงระดับนั้น ผู้หญิงส่วนใหญ่จึงรู้สึกว่าไมเกรนดีขึ้นหรือหายไปเมื่อตั้งครรภ์ได้สามเดือน หากยังปวดศีรษะอยู่ อย่ากินยาเอง ยาแก้ไมเกรนส่วนใหญ่ไม่ดีต่อทารก ยาทั่วไปเช่น พาราเซตามอลใช้ได้ปลอดภัย แต่ควรปรึกษากับแพทย์ก่อน

 

อาการ

ไมเกรนจากประจำเดือนก็เหมือนกับการปวดไมเกรนทั่วไป คุณอาจจะ:

-มีอาการนำ(ออร่า)ก่อนปวดศีรษะ แต่ไม่ทุกคนที่เกิดอาการนำ  ปวดตุบที่ศีรษะข้างใดข้างหนึ่ง มีอาการคลื่นไส้ อาเจียน และอาจไวต่อแสง เสียง ตาพร่ามัว

-ปวดศีรษะก่อนมีประจำเดือน และมักมีอาการ ปวดศีรษะ,อ่อนเพลีย,ปวดข้อ,สิวขึ้น,ปัสสาวะน้อย,ท้องผูก,อยากอาหารเพิ่มขึ้น,อยากของหวาน,ของเค็มหรือแอลกอฮอล์

การรักษาและวิธีแก้ปวดหัวไมเกรน

-ยาแก้อักเสบกลุ่มที่ไม่ใช่สเตียรอยด์(NSAID): เช่น ibuprofenใช้แก้ปวดไมเกรนจากการมีประจำเดือนได้ หรือแพทย์อาจสั่งยาที่แรงกว่านี้ให้ นอกจากลดปวดไมเกรนแล้ว ยังช่วยลดการปวดประจำเดือนได้

-Triptans หรือ ditans เป็นทางเลือกอีอย่างหนึ่ง ยาเหล่านี้จะปิดกั้นสัญญาณปวดในสมอง จะออกฤทธิ์ภายในสองชั่วโมง

แพทย์จะเป็นผู้เลือกว่าคุณควรได้ยาอะไร

หากประจำเดือนคุณมาตรงเวลาทุกเดือน คุณควรกินยาแก้ปวดสองสามวันก่อนประจำเดือนมา และกินจนครบสัปดาห์ จะช่วยป้องกันปวดไมเกรน หากประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ แพทย์อาจให้ยาอื่นที่จะช่วยป้องกันการเกิดไมเกรน

-การกระตุ้นเส้นประสาท: ใช้เครื่องมือวางที่หน้าผาก,คอหรือแขน และปล่อยกระแสไฟฟ้าปริมาณน้อยเป็นจังหวะเข้าไปที่เส้นประสาทเวกัส ช่วยลดปวดไมเกรน

ดูแลตัวเองได้ที่บ้านและการรักษาทางเลือก

ปรึกษากับแพทย์ก่อนจะเริ่มวิธีการใดๆ โดยเฉพาะอาหารเสริม ซึ่งอาจมีผลต่อฤทธิ์ยา

ฝังเข็ม:วิธีการรักษาของจีนโบราณ โดยการแทงเข็มลงไปที่จุดพลังงานต่างๆในร่างกาย ช่วยลดการปวดศีรษะจากความเครียดและไมเกรนได้

Biofeedback:ช่วยลดการปวดศีรษะโดยให้สังเกตอาการที่ร่างกายของคุณตอบสนองต่อความเครียด ช่วยลดการปวดศีรษะจากความเครียดและไมเกรนได้ แต่แพทย์เองยังไม่ทราบว่าทำไม

Coenzyme Q10: เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ เป็นอาหารเสริม อาจช่วยป้องกันการปวดศีรษะ

ประคบเย็น: ประคบน้ำแข็งที่ศีรษะช่วยลดการปวด

ลดการกินอาหารเค็ม: ช่วยลดการปวดศีรษะได้

การนวด:ช่วยลดการปวดไมเกรน แต่แพทย์เองยังไม่ทราบว่าเพราะอะไร

แมกนีเซียม: หากแมกนีเซียมในร่างกายต่ำ ทำให้ปวดศีรษะได้ อาการเสริมช่วยได้ แต่อาจทำให้ท้องเสียได้

เทคนิคการผ่อนคลาย: การฝึกผ่อนคลายกล้ามเนื้ออย่างก้าวหน้า,จินตนาการและฝึกการหายใจ

Riboflavin: วิตามินบี 2 อาจช่วยป้องกันไมเกรน แต่จะปัสสาวะออกมาเป็นสีเหลืองเข้ม

ป้องกันการปวดศีรษะได้หรือไม่

มีวิธีการบางชนิดที่แพทย์อาจแนะนำ

ฮอร์โมน: ยาคุมกำเนิดหรือเอสโตรเจนแปะผิวหนัง ช่วยลดความถี่และความรุนแรงของการปวดไมเกรน แต่ไม่ได้ผลในทุกคน บางคนอาจมีอาการเลวลง

แพทย์มักให้ใช้ยาคุมกำเนิดราวสามถึงหกเดือน โดยไม่กินเม็ดยาหลอก ช่วยไม่ให้มีประจำเดือนและหยุดอาการปวดศีรษะได้

ถ้าคุณมีไมเกรนแบบมีอาการนำ(ออร่า):ไม่ควรใช้ยาคุมกำเนิดที่มีเอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรน เพราะจะเกิดเส้นเลือดในสมองแตกได้ และเหตุผลอื่นที่แพทย์จะไม่ใช้ยาคุมกำเนิดเพื่อลดการไมเกรนที่เกิดจากประจำเดือน คือ มีประวัติสูบบุหรี่,ความดันโลหิตสูง,อ้วน,เบาหวาน

หากไม่มีอะไรช่วยได้เลย แพทย์จะให้ยา leuprolide acetate (Eligard, Lupron Depot) ซึ่งจะลดระดับเอสโตรเจนในร่างกาย แต่มีผลข้างเคียงหลายอย่าง จึงควรเป็นทางเลือกสุดท้าย

ยาที่ช่วยรักษาไมเกรนที่เกิดเมื่อมีประจำเดือนที่ใช้กันบ่อยๆและยังช่วยป้องกันการปวดศีรษะได้ คือยาแก้อักเสบชนิดไม่มีสเตียรอยด์และtriptan เช่น Eletriptan (Relpax)Frovatriptan (Frova)Lasmiditan (Reyvow)Naratriptan (Amerge)Rizatriptan (Maxalt)Sumatriptan (Imitrex, Onzetra Xsail, Sumavel, Zembrace)Sumatriptan/naproxen sodium (Treximet)Zolmitriptan (Zomig)

ยาที่ช่วยป้องกันไมเกรน หากคุณไม่ตอบสนองต่กการรักษา และปวดไมเกรน4 วันหรือมากกว่าในหนึ่งเดือน แพทย์จะให้ยาป้องกัน และต้องกินสม่ำเสมอเพื่อลดความถี่และความรุนแรงของการปวด เช่น ยากันชัก,ยาลดความดันโลหิต,และยาต้านเศร้าบางตัว,ยาปิดกั้น CGRP

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *